| เล่นไฟล์ที่ 1 | เล่นไฟล์ที่ 2 | เล่นไฟล์ที่ 3 | เล่นไฟล์ที่ 4 | เล่นไฟล์ที่ 5 | เล่นไฟล์ที่ 6 | เล่นไฟล์ที่ 7 | เล่นไฟล์ที่ 8 |
พระพุทธเจ้า การ์ตูน
ภาพยนตร์การ์ตูนประวัติพระพุทธเจ้าผีมือคนไทย (ล้วนๆ) เกือบจะเสร็จแล้วครับ
เมื่อปลายปี 48 เมื่อผมตั้งใจที่จะทำรายการธรรมะสำหรับเด็กและเยาวชน
ได้ไปประชุมกันที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง มีท่านว.วชิรเมธี เป็นประธานการประชุม
เราคุยกันหลายเรื่อง ท่านว. เสนอให้นำพระบรมราโชวาทของในหลวงมาทำเป็นละคร กึ่งเรียลลิตี้
เพื่อให้เห็นขั้นตอนการทำงานของพวกเขา ผ่านความคิดที่สร้างสรรค์และได้เรียนรู้
พระบรมราโชวาทของในหลวงท่านไปด้วย
เพราะปีนั้นเรียลลิตี้กำลังมาแรงสุดๆๆ
หลังจากที่ทุกคนสรุปจบเรื่องที่ตนเองอยากทำกันหมดแล้ว เป็นคราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวัยกลางคน
สีหน้าเรียบเฉย รับฟังพวกเราอย่างตั้งใจทุกครั้งที่ผมหรือเพื่อนในกลุ่มคุยกัน เธอก็จะอมยิ้มน้อยๆ
ราวกับแม่ที่ชื่นชมในความคิดของลูกๆ
ผมไม่รู้ว่าเธอคือใคร ไม่รู้ว่าเธอมาทำไม และไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวอะไรกับการทำสื่อ ที่ออกจะเน้นเด็กๆ
และวัยรุ่นแบบนี้ เพราะท่าทางเธอดูนิ่ง ...เฉยจนพวกเราไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวข้องด้วย
ก่อนที่ทุกอย่างจะจบ ด้วยข้อสรุปของพวกเรา ผมหันไปถามเธอว่า เธอมีไอเดียอะไรมาเสนอหรือ
เธอหยิบแฟ้มงานเล่มใหญ่ ซึ่งหน้าแรกๆ เต็มไปด้วยเอกสารที่เกี่ยวกับบริษัทอะไรซักอย่าง
เธอพูดอย่างกระตือรือร้นถึงพ้นงานที่เธอเตรียมมานำเสนอ ให้ที่ประชุมของเราดูกัน
ผมแทบจะไม่สนใจอะไรมากนัก
เพราะคิดว่าคงเป็นงานที่ผู้ใหญ่คิดและยัดเยียดให้เด็กดูตามปกติเหมือนที่เคยร่วมงานมา
แต่เมื่อเธออธิบายพร้อมทั้งเปิดพลิกข้ามหน้าไปที่หน้าที่มีภาพประกอบ
สายตาทุกคู่ของเราทุกคนที่อยู่ในที่นั้นหยุดมองเป็นตาเดียวกัน เพราะมันเป็นภาพการ์ตูน
ที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็นมามันหยุดอยู่ตรงหน้าของผม
ภาพพระพุทธเจ้า ในฉบับวอลดิสนีย์ (ผมคิด)
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น เธอยังคงเป็นภาพในหน้าถัดๆไปให้ผมดูอย่างกระตือรือร้น
แต่เป็นผมเองที่หยุดภาพเหล่านั้นให้ช้าลง เพราะทุกอิริยาบถที่เคยจินตนาการ
มันกำลังโลดแล่นอยู่ตรงหน้าอย่างมีชีวิตชีวาและสีสันสะดุดตาสุดๆๆ
เธออธิบายว่าสิ่งที่เธอทำคือ ภาพยนตร์แอนนิเมชั่น
ชื่อเรื่องว่า ประวัติพระพุทธเจ้า หรือ The life of Buddha
เป็นฝีมือการวาดของคนไทย .....ผมถามย้ำคนไทยจริงหรือ .....นี่มันวอลดิสนีย์ชัดๆ
เธอบอกว่า นี่แหละ...ที่วอลดิสนีย์ก็ฝีมือคนไทย
ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะมีสื่อที่ดีที่สุดและสวยที่สุดเกิดขึ้นตรงหน้าในตอนนั้น
วันนั้นแม้ว่าจะเป็นเวลาที่ดึกมากๆแล้ว แต่ทั้งผมและท่านว.ต่างใจจดใจจ่อกับการอธิบาย
ผลงานและแนวคิดที่เป็นรูปธรรมยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดของเธอคนนี้
โดยลืมสิ่งที่เราคุยกันมาอย่างยาวนานไปเสียสิ้น
เธอแนะนำตัวเองว่า ชื่อ ดร. วัลลภา พิมพ์ทอง
ภาพยนตร์การ์ตูนประวัติพระพุทธเจ้าผีมือคนไทย (ล้วนๆ) เกือบจะเสร็จแล้วครับ
เมื่อปลายปี 48 เมื่อผมตั้งใจที่จะทำรายการธรรมะสำหรับเด็กและเยาวชน
ได้ไปประชุมกันที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง มีท่านว.วชิรเมธี เป็นประธานการประชุม
เราคุยกันหลายเรื่อง ท่านว. เสนอให้นำพระบรมราโชวาทของในหลวงมาทำเป็นละคร กึ่งเรียลลิตี้
เพื่อให้เห็นขั้นตอนการทำงานของพวกเขา ผ่านความคิดที่สร้างสรรค์และได้เรียนรู้
พระบรมราโชวาทของในหลวงท่านไปด้วย
เพราะปีนั้นเรียลลิตี้กำลังมาแรงสุดๆๆ
หลังจากที่ทุกคนสรุปจบเรื่องที่ตนเองอยากทำกันหมดแล้ว เป็นคราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวัยกลางคน
สีหน้าเรียบเฉย รับฟังพวกเราอย่างตั้งใจทุกครั้งที่ผมหรือเพื่อนในกลุ่มคุยกัน เธอก็จะอมยิ้มน้อยๆ
ราวกับแม่ที่ชื่นชมในความคิดของลูกๆ
ผมไม่รู้ว่าเธอคือใคร ไม่รู้ว่าเธอมาทำไม และไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวอะไรกับการทำสื่อ ที่ออกจะเน้นเด็กๆ
และวัยรุ่นแบบนี้ เพราะท่าทางเธอดูนิ่ง ...เฉยจนพวกเราไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวข้องด้วย
ก่อนที่ทุกอย่างจะจบ ด้วยข้อสรุปของพวกเรา ผมหันไปถามเธอว่า เธอมีไอเดียอะไรมาเสนอหรือ
เธอหยิบแฟ้มงานเล่มใหญ่ ซึ่งหน้าแรกๆ เต็มไปด้วยเอกสารที่เกี่ยวกับบริษัทอะไรซักอย่าง
เธอพูดอย่างกระตือรือร้นถึงพ้นงานที่เธอเตรียมมานำเสนอ ให้ที่ประชุมของเราดูกัน
ผมแทบจะไม่สนใจอะไรมากนัก
เพราะคิดว่าคงเป็นงานที่ผู้ใหญ่คิดและยัดเยียดให้เด็กดูตามปกติเหมือนที่เคยร่วมงานมา
แต่เมื่อเธออธิบายพร้อมทั้งเปิดพลิกข้ามหน้าไปที่หน้าที่มีภาพประกอบ
สายตาทุกคู่ของเราทุกคนที่อยู่ในที่นั้นหยุดมองเป็นตาเดียวกัน เพราะมันเป็นภาพการ์ตูน
ที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็นมามันหยุดอยู่ตรงหน้าของผม
ภาพพระพุทธเจ้า ในฉบับวอลดิสนีย์ (ผมคิด)
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น เธอยังคงเป็นภาพในหน้าถัดๆไปให้ผมดูอย่างกระตือรือร้น
แต่เป็นผมเองที่หยุดภาพเหล่านั้นให้ช้าลง เพราะทุกอิริยาบถที่เคยจินตนาการ
มันกำลังโลดแล่นอยู่ตรงหน้าอย่างมีชีวิตชีวาและสีสันสะดุดตาสุดๆๆ
เธออธิบายว่าสิ่งที่เธอทำคือ ภาพยนตร์แอนนิเมชั่น
ชื่อเรื่องว่า ประวัติพระพุทธเจ้า หรือ The life of Buddha
เป็นฝีมือการวาดของคนไทย .....ผมถามย้ำคนไทยจริงหรือ .....นี่มันวอลดิสนีย์ชัดๆ
เธอบอกว่า นี่แหละ...ที่วอลดิสนีย์ก็ฝีมือคนไทย
ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะมีสื่อที่ดีที่สุดและสวยที่สุดเกิดขึ้นตรงหน้าในตอนนั้น
วันนั้นแม้ว่าจะเป็นเวลาที่ดึกมากๆแล้ว แต่ทั้งผมและท่านว.ต่างใจจดใจจ่อกับการอธิบาย
ผลงานและแนวคิดที่เป็นรูปธรรมยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดของเธอคนนี้
โดยลืมสิ่งที่เราคุยกันมาอย่างยาวนานไปเสียสิ้น
0 Reply to "พระพุทธเจ้า การ์ตูน (04)"
แสดงความคิดเห็น